Proof of stake คืออะไร ทำงานอย่างไร


Proof of Stake คืออะไร

Proof of stake หรือการค้ำประกันใน Blockchain นั้นคืออีกหนึ่งวิธีที่แตกต่างที่ใช้ในการตรวจสอบธุรกรรม

มันก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งอัลกอริทึ่มอีกตัว และจุดมุ่งหมายนั้นก็ยังคงเหมือนกับ proof of work แต่ขั้นตอนในการที่จะไปให้ถึงเป้าหมายนั้นแตกต่างกัน

แนวคิดของ proof of stake คิดขึ้นมาในงาน Bitcointalk forum เมื่อปี 2011 แต่เหรียญตัวแรกของโลกที่ใช้เจ้าอัลกอริทึมตัวนี้มีนามว่า Peercoin ซึ่งเริ่มใช้เมื่อปี 2012 โดยหลังจากนั้นก็มี ShaodowCash, Nxt, BlackCoin, NuShares/NuBits, Qora และ Nav Coin


สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างจาก Proof of work ที่โดยปกติแล้วรางวัลจะถูกมอบให้ผ่านการขุดหรือการแก้ไขสมการ เพื่อการยืนยันตรวจสอบธุรกรรมและสร้างบล็อกใหม่นั้น ใน Proof of stake การสร้างบล็อกใหม่จะถูกกำหนดโดย “ความรวย” ของผู้ถือเหรียญ หรือจะเรียกอีกอย่างว่าการ stake ก็ได้



ไม่มี Block reward ใน proof of stake


ความแตกต่างอีกข้อก็คือเหรียญที่ใช้อัลกอริทึมแบบ proof of stake นั้นจะถูกสร้างมาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น และจำนวนของมันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเด็ดขาด

นั่นหมายความว่าในระบบของ PoS นั้น มันจะไม่มีรางวัลในการสร้างบล็อกใหม่ ดังนั้นผู้ถือ stake จะได้รับค่าธรรมเนียมแทน ซึ่งไม่ต่างจากการขุด


นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมในระบบ PoS นั้น นักขุดจึงถูกเรียกว่านักตีเหล็กแทน


ระบบที่ไม่ต้องขุด

ปกติแล้วการขุดนั้นหมายถึงการถอดรหัสแบบ Proof of work แต่เมื่อเป็น Proof of stake ที่เอาเงินวาง เท่ากับว่าเราจะไม่ต้องขุดหรือไม่ต้องถอดรหัสนั้นเอง แล้วมันมีผลยังไง คำตอบก็คือมันทำให้ธุรกรรมของ Blockchain เร็วขึ้นมากครับ ปกติแล้วในระบบ Proof of work ของใน Bitcoin หรือ Litecoin ระบบจำเป็นต้องมีเวลาช่วงหนึ่งที่ใช้ในการแข่งขันด้วยการขุดหรือการถอดรหัส ซึ่งเวลาตรงนี้ มันทำให้เสียเวลามากครับอย่างใน Bitcoin ก็ใช้เวลาถึง 10 นาทีต่อ Block เลยด้วย เมื่อระบบไม่ต้องขุดเพราะเราจะตรวจสอบจากยอดที่แต่ละคนวางเงินค้ำประกันไว้ ก็สามารถยืนยันธุรกรรมได้เลยมันจึงเร็วกว่ากันมาก

แล้วทำไมทุกคนไม่ใช้ Proof of Stake


การใช้ Proof of stake นั้นก็มีข้อดีข้อเสียที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในวงการนี้ครับ ประการแรกคือระบบที่เป็น Proof of stake นั้นจะถูกมองว่ามูลค่าของเหรียญเกิดจาก Virtual ล้วนๆ มันเป็นมูลค่าที่จับต้องไม่ได้ เพราะเหรียญก็เสกขึ้นมาในระบบแล้วก็เอาไปค้ำประกันระบบ ต่างจากระบบ Proof of work ที่การรักษาความปลอดภัยของระบบนั้นแลกมาด้วยค่าไฟจำนวนหนึ่ง ทำให้มันดูเหมือนว่ามีมูลค่าในโลกแห่งความเป็นจริง และหาก Cryptocurrency นั้นก็ไม่ได้สร้างยากอะไรการใช้ Proof of stake จึงดูยากที่จะดึงความน่าเชื่อถือแก่ระบบได้

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญที่ถกเถียงกันของ Proof of stake คือโอกาสที่ระบบจะถูกโจมตีที่เรียกว่า 51% Attack ได้หรือเปล่า หากในระบบ Proof of work นั้นหากเราจะโจมตีระบบให้สำเร็จเราจะต้องมีกำลังขุดอย่างน้อยครึ่งหนึ่งและนั้นเท่ากับว่าคุณต้องมีเครื่องขุดมหาศาลและรวยมากๆเสียด้วย ในทางกลับกัน Proof of stake ถูกมองว่ามันง่ายมากที่จะมีใครซักคนถือเหรียญเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีความเห็นที่บอกว่าหากกระจายเหรียญได้ดีมากพอก็โอกาสที่จะถูกโจมตีได้น้อยลงเช่นกัน


การนำไปใช้


ปกติในปัจจุบันการใช้ Proof of stake อย่างเดียวใน Public Blockchain นั้นจะไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นระบบ Hybridge เช่น ระบบ Masternode อย่าง Zcoin Dash และ Ethereum และก็ถูกออกแบบเพิ่มเติมในระบบอื่นๆ เช่น Proof of Importance ใน Nem ก็ถือเป็น Proof of stake แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม หรือระบบ Delegated Proof of stake ใน Lisk หรือ EOS ก็เป็น Proof of stake ที่เพิ่มระบบผู้แทน (Deleageted ขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง)








CryptomineTH 
ที่มา : Siamblockchain
ที่มา : Blockchain-review
ขับเคลื่อนโดย Blogger.